เนื่องจากวันนี้เราได้ไปส่องเพจหนึ่งมา เพจชื่อว่า "เพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด" มันก็จริงอย่างที่เขาว่ากระมัง เพราะเป็นเด็กเราจึงมักจะโดน
ขีดเส้นทางให้เดิน เพราะเป็นเด็กเราจึงมักจะถูกตีกรอบให้แคบ เพราะเป็นเด็กเราจึงถูกจำกัดอิสระภาพ เพราะเป็นเด็กเราจึงโดนทำลายความฝัน จริงๆปัจจัยเกิดมาจากหลายๆอย่างด้วยกัน แต่ถ้าพูดถึงในสังคมหลักๆทำไมพวกเราถึงโดนแบบนี้ ง่ายนิดเดียว "เพราะผู้ใหญ่รักเรามากเกินไป"ผู้ใหญ่ต้องการให้เรามีอนาคตที่ดี ผู้ใหญ่ต้องการให้เรามีอาชีพที่มั่นคง ผู้ใหญ่ต้องการให้เรามีความสุข แต่ขอประทานโทษคุณผู้ใหญ่ทั้งหลาย คุณมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหนว่าสิ่งที่คุณทุกคนมอบให้เด็กๆนั้นคือ "ความสุข" ในแบบที่เขาอยากได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าให้เขาเรียนติวหนัก ติวเข้ม จำกัดอิสระและจินตนาการของเขาเพื่อให้เขาได้เป็นแพทย์ แล้วคุณถามเขารึยังว่าเขาอยากเป็นอะไร?? มันก็ใช่ว่าเขาอาจจะตอบว่า "ผม/หนู อยากเป็นหมอ" นั้คือความคิดจริงๆ ความชอบจริงๆของเขาหรือมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่พวกคุณปลูกฝังให้เขาเท่านั้น ?? การพูดกรอกหูก็เป็นอีกหนึ่งในการสะกดจิตขั้นพื้นๆเบๆ เป็นเหมือนการปลูกฝังความคิดให้เขาไปในตัว พวกคุณเคยสังเกตุมั๊ยว่าเขาชอบอะไร? สนุกกับอะไร? และทำอะไรได้บ้าง จริงๆเขาอาาจะอยากเปิดร้านเป็นของตัวเองก็ได้ใครจะไปรู้ จริงมั๊ย? หรือพวกคุณจะเถียง??
จริงอยู่ที่เด็กหลายคนมีความฝันจะมีอาชีพมั่นคงและมีความสุข จริงๆเขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเขากระมัง พวกเขาอาจจะทำเพื่อพวกคุณก็ได้ เด็กหลายๆคนเป็นกันทั้งนั้นแหละ จริงๆพวกเขาอาจจะไม่อยากได้หรอก ผลการเรียนดี ผลสอบดีๆ คณะที่เรียนดีๆ หรืออาชีพดีๆ แต่ถ้าพวกเขาสามารถทำได้ผู้ใหญ่ก็จะภูมิใจและรักเขา รึไม่จริง? เด็กทุกคนแข่งกันเรียนเพื่อเอาใจพ่อ แม่ นั้นคือประเด็นหลักกระมัง ประเด็นรองที่เป็นผลพลอยได้คงเป็นผลดีกับตัวเขาเอง
มาพูดถึงอาชีพกันบ้างมั๊ย? อาชัพที่ภาคภูมิใจที่สุดของหลายๆคนคงจะไม่พ้นแพทย์สินะ อืม...พ่อ แม่คงเอาไปคุยได้สนุกปากว่า "ลูกฉันสอบติดแพทย์" คงใช่ แต่คุณพ่อ คุณแม่หลายๆคนจะรู้มั๊ยว่าอาชีพแพทย์จริงๆแล้วมันไม่ได้ทำให้คนที่เป็นมีความสุขสักเท่าไหร่หรอกมั้ง เพราะอาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่ต้องระมัดระวังเรื่องสิทธิ์ของคนไข้สูง ต้องแม่นยำและละเอียดอ่อน ต้องแข่งขันกับแพทย์ท่านอื่นๆเพื่อให้มีชื่อเสียงและมีลูกค้าเยอะๆต้องแข่งขันกับนักศึกษาอีกมากมายเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตามโรงพยาบาลต่างๆ โดนร้องเรียนไปก็เยอะ โดนฟ้องไปก็บ่อย ไหนจะเรียนยากแสนยาก สอบเข้าก็ไม่ธรรมดา ตอนนี้คนเก่งๆหลายคนจึงหักเหความสนใจจากแพทย์มาเป็นครูบ้างอะไรบ้างเยอะแยะ (อ้าวชิบละ คู่แข่งตรูเพิ่มมาละสิ)
จริงๆความพวกเขาออาจะเป็นการเลือกทางเดินด้วยตัวของเขาเองก็เป็นได้ มีความฝันและลองทำตามจุดหมาย ลองสนับสนุนพวกเขาให้มากๆดูสิ ลองให้พวกเขาได้ค้นพบว่าจริงๆแล้วพวกเขาชอบอะไรกันแน่ ไม่ใช่ว่าชอบในสิ่งที่พวกคุณปลูกฝังให้เขา แต่เป็นสิ่งที่เขาชอบจากใจจริงๆ เปิดโลกของเขาให้กว้างๆ พูดคุยเปิดใจกันให้มากๆ คุยกันให้เหมือนเพื่อนที่เปิดอกคุยกัน ชักนำและเป็นแนวทางไม่ใช่เป็นแนวรั้วขวางกั้น ให้คำปรึกษาไม่ใช่คอยห้ามและยุยง และอย่างสุดท้ายคือคอยให้ความรักและกำลังใจกับพวกเขาให้มากๆ มีเวลาให้พวกเขาเยอะๆและอย่าคอยบังคับมากจนเกินไป จำเอาไว้ นั้นคือ "ลูก" ของพวกคุณ เขาไม่ใช่ "สัตว์เลี้ยง" จะได้คอยล่ามโซ่และจูงไปในทิศทางที่พวกคุณต้องการ
(บทความนี้ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลใดๆในโลกแห่งความเป็นจริง และไม่ได้มาจากความเก็บกดของตัวคนเขียน และที่สำคัญไม่ได้แต่งบทความตอนอยู่ในอารมณ์ที่กำลังผิดใจกับผู้ปกครอง ไม่ได้ต้องการจะระบายอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงบทควมที่คิดอยากจะแต่งก็ลุกขึ้นมานั่งพิมพ์เอาเสียดื้อๆเพราะได้ลองไปนั่งอ่านกระทู้ในพันทิปบางอันมา จบนะ)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น